ก่อนอื่นแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า
สวัสดีค่ะ เราชื่อนางสาวภาวิตา ยะสะนพ ชื่อเล่น เบคก้า อายุ 19 ปี ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ถึงวันที่ 22 สิงหาคม 2561 รวมๆแล้วก็ 60 วัน เรามีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรม กิจกรรมหนึ่งที่ประเทศเยอรมันนี เป็นโครงการที่มีชื่อว่า INCOMING-PROGRAM of Internationale Jugendgemeinschaftsdienste (IJGD) เป็นโครงการระยะเวลา 2 เดือน โดยมีจุดมุ่งหมายหลักคือการให้ผู้เข้าร่วมได้มาฝึกเป็นผู้นำในค่ายอาสาสมัครนานาชาติ
ความเป็นมายังไงทำไมเราถึงได้ร่วมโครงการนี้?
เริ่มแรกเลยคือเราเคยมีโอกาสได้ช่วยและเป็นผู้เข้าร่วมค่ายต่างๆรวมทั้งค่ายอาสาสมัครนานาชาติของดาหลาด้วย หลังๆก็ได้มีโอกาสมาเป็นผู้ช่วยค่าย ทำไปเรื่อยๆเริ่มรู้สึกว่าสนุกดีและคงจะดีถ้าได้มีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นเพราะเราได้ฝึกอะไรหลายๆอย่างทั้งภาษา การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม การทำงานอาสา และอื่นๆ วันนึงก็ได้ยินเกี่ยวกับโครงการนี้ เลยมีความสนใจเพราะมันค่อยข้างตรงอยู่กับสิ่งที่กำลังทำอยู่เลยลองสมัครดู เอาจริงๆก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในความสามารถและภาษาของตัวเองสักเท่าไหร่ แต่ลองดูก็ไม่เสียหายเนอะ…ปรากฏว่าได้รับเลือก!!!
ตอนแรกพอได้เมลล์แล้วตื่นเต้นมากกกก พอตั้งสติได้ก็เริ่มดำเนินการจัดการเรื่องเอกสารต่างๆ เช่น ขอวีซ่า เตรียมนู่นนี่ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆตั้งแต่เริ่มต้นเลยทั้งการขอวีซ่า การเตรียมเอกสารต่างๆ เพราะส่วนใหญ่ต้องทำเองแต่โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆที่ดาหลาด้วย ระยะเวลาสำหรับวีซ่าของเราประมาณ 2-3 วันก็ได้รับซองจดหมายจากสถานทูตแล้ว(เร็วเว่อร์)
ผ่านไปแป๊บเดียวก็ถึงกำหนดที่จะต้องเดินทางแล้ว ซึ่งก็คือวันที่ 20 มิถุนายน เป็นเที่ยวบินกลางคืนซึ่งใช้เวลาในการรอน๊านนาน ยิ่งรอคนเดียวอีก ตื่นเต้นมากกกก เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางไปต่างประเทศคนเดียวแล้วยังต้องไปใช้ชีวิตไกลถึงทวีปยุโรป 2 เดือนเต็มๆ ทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดและคิดว่ามันเป็นความท้าทายที่น่าสนใจ พอขึ้นเครื่องปุ๊ป…..หลับ เพราะเวลาก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน ใช้เวลาบินประมาณ 10 ช.ม. แล้วต้องเปลี่ยนเครื่องที่ เวียนนา ประเทศ ออสเตรีย ประมาณ 1 ช.ม.ก็ถึงสนามบินเบอร์ลิน พอไปถึงที่นั่นไม่นานก็มีผู้ประสานงานจากทางองค์กรชื่อ Feri มารับ เค้าดูเป็นคนใจดีระหว่างทางก็คุยนู่นคุยนี่กันไป ตอนแรกๆก็ยังเกร็งๆ เพราะยังมึนๆแล้วก็กังวลกับภาษาของตัวเอง พอไปถึงที่พักก็พบว่ามีสมาชิก คนอื่นๆมาถึงก่อนหน้าเราแล้ว ในโครงการ Incoming-Program มีด้วยกันทั้งหมด 6 คนรวมทั้งเรา ซึ่งพวกเราทั้ง 6 คนจะอยู่ด้วยกัน 2 เดือนเต็มๆ
พอทุกคนมาถึงกันแล้วผู้ประสานงานก็เริ่มคุยเกี่ยวกับรายละเอียดและโปรแกรมของอาทิตย์แรก โดยอาทิตย์แรกคือตั้งแต่วันที่ 22-28 มิถุนายน เป็นการอบรมเกี่ยวกับการจัดการและออกแบบค่าย โดยมีชื่อว่า .”Training seminar for leading an international group” และในการอบรมที้ใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมดเลย มีสมาชิกผ็เข้าร่วมทั้งหมด 13 คน และ ผู้นำสัมนาอีก 3 คน ช่วงแรกๆก็ต้องใช้การปรับตัวหน่อยเพราะ มีคนเยอะและมาจากหลากหลายที่ ภาษาก็เข้าใจ แต่บางครั้งก็มีพวกหัวข้อและคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เราไม่ค่อยได้เข้าถึงอันนี้ก็ต้องทำการบ้านหนักหน่อย อันไหนไม่เข้าใจจริงๆก็ถามหรือไม่ก็นั่งฟังเฉยๆไป เนื้อหาหลักๆที่พูดถึงกันในหนึ่งสัปดาห์ เกี่ยวกับ
หัวข้อเรื่องจาก ijgd เช่น บทบาทของ ผู้นำในค่าย, เทคนิค, เงื่อนไข,โครงสร้างและจุดประสงค์ของ องค์กร (ijgd)
หัวข้อสากล เช่น วิธีการเรียนรู้ระหว่างวัฒนธรรมในค่าย, ทีมผู้นำที่มีความแตกต่าง, ทำค่ายสร้างหรือสู้กับอคติ, ความขัดแย้งด้านวัฒนธรรม, และบทบาทไหนของผู้นำที่ควรจะเป็นในสถานการณ์นั้นๆ
บรรยาการในหนึ่งสัปดาห์ไม่ได้มีแค่การพูดคุยแค่เกี่ยวกับเรื่องซีเรียสๆ แต่ยังมีกิจกรรมสันทนาการต่างๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่ม และเป็นบางครั้งก็เป็นการนำเสนอหัวข้อที่จะมาสรุปกันในรูปแบบของเกมส์และบางครั้งยังมีการแยกเป็นกลุ่มย่อยเพื่อให้ไปคิดเกี่ยวกับกิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย และนำเสนอในกลุ่มใหญ่ ซึ่งรวมแล้วก็สนุกดี
พอเสร็จสัปดาห์แรกผู้เข้าร่วมคนอื่นๆก็แยกย้ายกันกลับ เหลือแค่พวกเรา 4 คนที่ยังอยู่ต่อ และหลังจากอบรมเสร็จผู้ประสานงานก็มาคุยกับพวกเราอีกครั้งเกี่ยวกับกิจกรรมติอไป นั่นก็คือ พวกเราจะต้องไปนำค่าย แต่ก่อนที่ค่ายจะเริ่มพวกเรามีวันหยุด 1 สัปดาห์ เพื่อนคนอื่นๆไปเที่ยวที่อื่นกัน เราเลยตัดสินใจนัดเจอกับอาสาสมัครเยอรมันที่เคยมาอยู่ไทย 2 คนซึ่งสมัครผ่านดาหลาเหมือนกัน
ในสัปดาห์นั้นเราได้เที่ยวและสำรวจในบางส่วนของเบอร์ลิน ได้เรียนรู้วัฒนธรรมบางอย่างของเยอรมันจากคนเยอรมัน ได้พูดคุยและทำกิจกรรมกับอาสาสมัครที่เคยรู้จักกันและไม่ได้เจอกันนาน ค่อนข้าง
เป็นวันหยุดที่สนุกดี
อาทิตย์ถัดมาถึงเวลาที่ค่ายแรกต้องเริ่ม แต่ไม่ใช่ค่ายของเราเป็นค่ายของเพื่อน 2 คน ใน 6 คนแต่ละค่ายจะมีผู้นำ 2 คน ค่ายนี้อยู่ที่เมือง Senftenberg เดินทางจากเบอร์ลินด้วยรถไฟ กิจกรรมในค่ายแบ่งออกเป็นด้านนอก และด้านใน ด้านนอกจะเป็นกิจกรรมพวกซ่อมแซมตกแต่งสถานที่และอุปกรณ์ ส่วนด้านในจะเป็นการช่วยเด็กๆที่มาที่นั่นซ้อมละครเวที และสิ่งที่เราทำก็คือกิจกรรมด้านนอก ทาสี, ขนของ และงานหนักๆ อื่นๆ แต่ก็สนุกดี555 เป็นอะไรที่เคยชินเหมือนค่ายในประเทศไทยเลย และทุกเย็นหลังจากเสร็จจากก
งานก็จะมีคลาสเรียนภาษาเยอรมัน วันละ 2 ช.ม. กับเจ้าของภาษาเองเลย แต่น่าเสียดายที่เรามีโอกาสได้อยู่ที่นั่นแค่อาทิตย์เดียว เพราะค่ายที่สองกำลังจะเริ่มและมันก็คือค่ายของเรานั่นเอง
ค่ายของเราอยู่อีกเมืองนึงที่มีชื่อ Potsdam ซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้าง อาคาร ปราสาท ค่ายนี้เรามีบัดดี้อีกคน เป็นคนแม็กซิกัน อายุ 25 ปี วันแรกที่ไปภถึงที่พัก ก็รู้สึกกังวลนิดหน่อย เพราะเป็นค่ายแรกที่มาในฐานะผู้นำ แถมยังเป็นในต่างประเทศอีก ภาษาเยอรมันก็พูดไม่ได้ แต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตั้งแต่การเตรียม แผนกิจกรรมกับบัดดี้ จนถึงการต้อนรับอาสาสมัคร ค่ายของเราเริ่มตั้งแต่
วันที่ 14 กรกฎาคม ถึงวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่งเป็นเวลาที่นานมาก นานกว่าค่ายในประเทศไทยอีก วันแรกสมาชิกค่ายก็ทยอยกันมา มีผู้ร่วมค่ายนี้ 12 คน ซึ่งสองวันแรกเป็นวันเสาร์ – อาทิตย์ เลยยังไม่มีการเริ่มทำงาน เราจึงมีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆเพื่อให้สมาชิกได้ร็จักกัน และพูดคุยเกี่ยวรายละเอียดและตารางคร่าวๆของค่าย พอวันจันทร์ พวกเราก็ไปทำงานกันตามโปรแกรม สถานที่ทำงานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งใน
Potsdam มีพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ ด้านนอกเป็นสวน แล้วงานของพวกเราก็คือทำสวนที่นั่น วันแรกเริ่มทำงานตอน 9 โมงเช้า แต่วันถัดมาทางหัวหน้าโปรเจคขอเป็น 8 โมงครึ่งก็ยังพอรับได้ เลิกงานตอน
บ่ายโมง พอทำไปเรื่อยๆอากาศเริ่มร้อน ผู้ร่วมค่ายเริ่มบ่น คนที่ดูแลงานเลยบอกว่าสามารถเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้นได้ถ้าไม่อยากร้อนคือเริ่มตั้งแต่ 6 โมง ครึ่ง แตอนแรกๆก็โอเค แต่พอต้องตื่นเช้าทุกวันทุกคนก็เริ่มล้าแต่ยังดีที่ทำงานแค่ครึ่งวัน ช่วงตอนบ่ายพวกเราก็มีเวลาได้พักผ่อน กิจกรรมหลักในค่ายเป็นแบบนี้ทุกๆวัน
วันหยุดก็พากันไปเที่ยว แต่สถานการณ์ในค่ายไม่ค่อยราบรื่น มีทั้งปัญหาต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมผู้เข้าร่วมที่มีต่อกิจกรรมในค่ายและในงาน หรือแม้กระทั่งทีมผู้นำที่มีปัญหากัน แต่กว่าจะผ่านมันไปได้ ก็ใช้เวลาพอสมควร พอเข้าอาทิตย์ที่ 2 ทุกอย่างก็เริ่มโอเค จนอาทิตย์สุดท้ายของค่าย รู้สึกดีใจที่ค่ายจบได้ด้วยดี ถึงแม้จะมีปัญหาบ้างก็ตาม………
หลังจากจบค่ายของตัวเอง เราก็เดินทางมาค่ายสุดท้าย ซึ่งกลับเข้ามาอยู่ในเบอร์ลินอีกครั้ง ค่ายนี้กลับมาเป็นผู้เข้าร่วมอีกครั้ง กิจกรรมในค่ายนี้เป็นการทำกิจกรรมกับเด็กผู้ลี้ภัย เช่น งานประดิษฐ์, เล่นเกมส์, กีฬา เป็นต้น งานที่นี่ไม่ต้องตื่นเช้า แต่เริ่มงานตอนเที่ยงจนถึง 6 โมงเย็นงานก็ไม่หนักมาก แค่ต้องใช่ความอดทนกับเด็กนิดหน่อย เพราะน้องอายุน้อยๆทั้งนั้นเลย บางคนก็ซนบ้าง เราใช้เวลาในค่ายนี้ 2 สัปดาห์ เพราะค่ายเริ่มไปก่อนแล้ว สัปดาห์นึง แต่เรายังอยู่อีกค่าย ก็เลยต้องใช้เวลาปรับตัวทั้งกับงาน แล้วก็กับผู้ร่วมค่ายคนอื่นๆ จนค่ายดำเนินมาถึงอทิตย์สุดท้ายและจบลง พวกเราทั้ง 6 คนก็กลับไปที่พักเดิม และมีการนัดประชุมประเมินผลกับองค์กร มีการประเมินกิจกรรมตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา พูดถึงปัญหาและข้อเสนอแนะที่
เกี่ยวกับกิจกรรม กินข้าวพูดคุยกับผู้ประสานงาน และมีวันหยุดพักผ่อนจนถึงวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งก็คือวันกลับ เรากลับถึงประเทศไทยในวันที่ 23 สิงหาคม 2561
สิ่งที่เราได้จากการไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้คือการ…
ฝึกเป็นเป็นผู้นำในค่าย การจัดการค่าย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการบริหารกิจกรรมการเงิน หรือแม้กระทั่งปัญหาในค่ายเพราะเรารู้สึกว่าถึงแม้เราจะเคยเจอมาหลายๆค่ายในประเทศไทย แต่สถานการณ์บางอย่าง และ
คนในค่ายแตกต่างจากที่เราเคยเจอ การใช้ชีวิตในต่างประเทศด้วยตนเอง การอยู่ร่วมกันในสังคมที่แตกต่าง การแก้ไขปัญหาและผ่านอุปสรรคต่างๆด้วยตนเองไม่ว่าจะเจอปัญหาหนักขนาดไหน และอื่นๆอีกมากมาย ทุกอย่างที่เราได้ผ่านมาในสองเดือนนี้ มันทำให้เราได้ประสบการณ์เรียนเกี่ยวกับทักษะในการทำงาน และทักษะในการใช้ชีวิต มันทำให้เราแข็งแรงและโตขึ้นมาก เรารู้สึกภูมิใจที่สามารถทำมันได้
ขอบคุณพี่ๆ น้าๆ จากกดาหลาที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเป็นอย่างดีและขอบคุณ IJGD ที่ให้โอกาสนี้กับเราได้ทำในสิ่งที่ท้าทาย และเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ากับเรา