เมืองอิฟูเกา ระหว่างวันที่ 7-18 กรกฎาคม 2557
เลือกร่วมกิจกรรมค่ายอาสาที่ฟิลิปปินส์ เพราะเห็นภาพ นาขั้นบันไดจากกูเกิ้ล คืออลังการมาก อยากมี พื้นที่เขียว ๆ เพดานสีฟ้า ๆ เป็นห้องทำงานดูบ้าง เหตุผลที่เลือกมีแค่นี้จริง ๆ ค่ะ ไม่ได้เลือกอะไรมาก เลย แต่รู้สึกไม่ค่อยดีเลยกับวันที่เหยียบมะนิลาครั้งแรก คือโดนต้มตุ๋นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น แท็กซี่ ร้านอาหาร หรือบริการ คือรู้สึกแย่ขึ้นมาเลยที่เลือกที่จะมาฟิลิปปินส์ แต่แอบหวังว่า ต่างจังหวัด จะเป็นที่ที่อบอุ่นและเป็นมิตรกว่านี้
ซึ่งอิฟูเกา ไม่ทำให้ผิดหวัง ทั้งคนและธรรมชาติ
วินาทีแรกที่เห็นนาขั้นบันได คือ ไม่ผิดหวังที่นั่งรถมาจากมะนิลา 9 ชั่วโมง คือ สวยมาก ความรู้สึกกับ กิจกรรมคือทุกอย่างเป็นไปตามแพลนที่แจ้งให้อาสาสมัครทราบ ยืดหยุ่นบ้างตามสถานการณ์ ถือว่าไม่ แน่นมาก และไม่น่าเบื่อมี โอกาสได้ทำเกือบทุกอย่าง ได้ไปหลาย ๆ ที่ ไม่ใช่อยู่แค่ทำนาอย่างเดียว ได้ เห็นชีวิตความเป็นอยู่จริง ๆ ของคนพื้นที่ ได้รู้ปัญหาของการทำนาขั้นบันได และปัญหาเรื่องการขาดผู้ สืบทอดภูมิปัญญา
ความรู้สึกเกี่ยวกับเพื่อน ๆ อาสาสมัคร ส่วนใหญ่มาเพราะสมัครใจ เลยช่วยกันทำงาน และพร้อมที่จะเรียนรู้จากชาวบ้าน เลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ส่วนการใช้ชีวิตร่วมกันอาสาสมัครส่วนใหญ่ถึงจะต่างวัฒนธรรมกันมาก ๆ แต่ทว่าแต่ละคนมีมารยาทสากล และมีความยืดหยุ่นสูง เลยไม่มีปัญหาระหว่างเพื่อนร่วมค่าย
ประทับใจทุกอย่างในค่ายยกเว้นอาหารและห้องน้ำ
เนื่องจากมีอาสาสมัครบางคนที่เคยชินกับการใช้ทิชชูในห้องน้ำแล้วทิ้งในชักโครก ซึ่งห้องน้ำค่ายเป็นโถชักโครกที่ต้องราดน้ำ วันท้าย ๆ เราจึงไม่มีห้องน้ำไว้ให้ปลดทุกข์กัน หนักหน่อยคือท่อตันเพราะดิน โคลน ลงไปสะสม น้ำขังอยู่ประมาณตาตุ่ม คือตอนนั้นเครียดเหมือนกัน ปวดปัสสาวะก็ต้องรอปลอดคน ลงไปปลดทุกข์ตามพุ่มไม้ตอนค่ำ ๆ ถ้าถ่ายหนักยิ่งแล้วใหญ่ เก็บไว้เข้าตามร้านข้าว แล้วห้องน้ำที่นี่มีลักษณะพิเศษ เหมือน ๆ กันในแทบทุกบ้านที่ได้ลองเข้าคือ ในห้องน้ำจะมีแต่โถสุขภัณฑ์ ถังน้ำที่ใช้ราดจะอยู่นอกตัวห้อง เวลาเข้าห้องน้ำเราต้องตักน้ำจากข้างนอก ใส่กระป๋องน้ำหิ้วเข้ามาเตรียมไว้ก่อนทำธุระ ส่วนห้องอาบน้ำที่แคมป์ ไม่มีประตูปิดค่ะ เวลาอาบน้ำคือ เอาผ้าขนหนูขึงกั้นแทนประตูไว้เฉย ๆ ก็มีบ้างที่ห้องข้าง ๆ หยิบของแล้วผ้าขนหนูร่วงก็เป็นที่ขำขันหยอกล้อกันไป สำหรับชาวยุโรปก็ไม่ค่อยเป็นปัญหาอะไร แต่สาว ๆเอเชียนี่จะตื่นเต้นกันมากกับห้องน้ำไร้ประตูอันนี้ เชื่อว่าครั้งต่อไปคงมีการปรับปรุงค่ะ พวกเราตอนนั้น รู้สึกไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่พอมานึกย้อนไป มันเป็นความทรงจำนึงที่ต้องพูดถึงแน่ ๆ ถ้าเล่าถึงการมาค่ายอาสาครั้งนี้
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากค่ายอาสาครั้งนี้คือ คนที่นี่เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติได้ดีจริง ๆ ค่ะ เค้าอยู่ได้โดยไม่ใช้โฟม รณรงค์อย่างเคร่งครัดว่าจะต้องให้ลูกหลานแยกขยะ คือในความคิดเราคือเค้ามีความคิดแบบ คนละครึ่งทางระหว่างคนกับธรรมชาติ อิฟูเกามีเทคโนโลยีพอ ๆ กับบ้านเรา แต่บางอย่างคนก็รับ บางอย่างเค้าก็แค่รู้ว่ามีเฉย ๆ แต่ก็ไม่ได้เห็นความสำคัญที่จะขาดไม่ได้
อีกอย่างคือการเรียนรู้ระหว่างการใช้ชีวิตร่วมกับอาสาสมัครต่างชาติ ทำให้เรียนรู้เรื่องการปรับตัว การยืดหยุ่นยอมรับสิ่งที่แตกต่าง ไม่ยึดมั่นกับความเป็นตัวเองมากเกินไป แต่ก็ไม่ได้สูญเสียความเป็นตัวเองโดยสิ้นเชิง หลายครั้งที่คนเราทะเลาะกันเพราะความต่าง ไม่ว่าจะด้วยความคิด การกระทำ หรืออะไรก็แล้วแต่ ความแตกต่างไม่ใช่ปัญหา แต่การคิดว่าคนอื่นทำอะไรในแบบที่เราไม่ทำคือความผิด นั่นคือปัญหา การเข้าค่ายอาสาต่างชาติทำให้เราเรียนรู้คนอื่น ไปพร้อม ๆ กับเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ให้ตัวเองด้วย ส่วนตัวคิดว่าตรงนี้จะช่วยให้เรามีทัศนคติในการดำเนินชีวิตมากขึ้นค่ะ